ข้าวไรซ์เบอร์รี่

ข้าวกล้องอุดมด้วยเส้นใยอาหาร ช่วยป้องกัน โรคเหน็บชา โรคโลหิตจาง

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (Riceberry) คือข้าวที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทําให้มีลักษณะเป็นข้าวเจ้า สีม่วงเข้ม รูปร่างเมล็ดเรียวยาว มีความนุ่มนวล ปลูกได้ตลอดทั้งปี

แต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่ต้องการเอาใจใส่เป็นพิเศษ ต้องปลูกแบบเกษตรอินทรีย์เท่านั้น เเละเป็นข้าวที่ต้องปลูกในที่อากาศเย็น ถึงได้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีคุณภาพ อุดมด้วยสารอาหาร

คุณสมบัติเด่น ทางด้านโภชนาการ คือมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี และโฟเลตสูง มีดัชนีน้ำตาล ต่ํา-ปานกลาง

สารอาหารสําคัญ ที่อยู่ในข้าวไรซ์เบอรี่ ประกอบด้วย

โอเมก้า 3 มีอยู่ 25.51 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม กรดไขมันจําเป็น มีบทบาทสําคัญต่อโครงสร้าง และการทํางานของสมอง ตับและระบบประสาท ลดระดับคอเลสเตอรอล

ธาตุสังกะสี 31.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ช่วยสังเคราะห์โปรตีน สร้างคอลลาเจน

รักษาสิว ป้องกันผมร่วง กระตุ้นรากผม,

ธาตุเหล็ก 13-18 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สร้างและจ่ายพลังงานในร่างกาย

เป็นส่วนประกอบที่สําคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์

ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ออกซิเจนในร่างกาย

และสมอง เส้นใยอาหาร (fiber) มีอยู่ปริมาณมากในข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยควบคุมน้ําหนัก ช่วย ระบบขับถ่าย ข้าวไรซ์เบอร์รี หุงอย่างไรให้อร่อย

การหุง ข้าวไรซ์เบอร์รีจัดเป็นข้าวกล้องชนิดหนึ่ง ดังนั้นหากต้องการหุงให้อร่อยก็ควรที่จะนําไปผสมกับข้าวหอมมะลิเพื่อให้ข้าวที่รับประทานเหนียวนุ่มมากขึ้น แต่ ถ้าหากต้องการหุงข้าวชนิดนี้เพียงอย่างเดียวก็ควรจะใช้สัดส่วนดังนี้ ข้าว 1 ส่วน : น้ํา 1.5 ส่วน โดยหุงต้มประมาณ 35 นาที แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก็จะได้รับประทานข้าวไรซ์เบอร์รีที่นุ่มและมีสีสันน่ารับประทาน

ข้าวไรซ์เบอร์รีถือเป็นธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพ และต้องขอชื่นชมนักวิจัยของไทย ที่สามารถนําข้อดีของข้าวทั้งสองพันธุ์มาผสมกันจนได้ข้าวไรซ์เบอร์รี ที่เปี่ยมไป ด้วยคุณค่าทางอาหาร